กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 9,924 เม็ด
วันที่ 13 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 11.00 น.
นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ / ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ , นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ / รองผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ , นายธาตรี สิริรุ่งวนิช ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ / หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ , พ.ต.อ.พิษณุ วัตถุ รรท.ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ , พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพาณิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ , นายเอกรินทร์ วรรณเวศ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ , พ.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมดิเรก ผบ.ฉก.3 , นายพงษ์ธร จันทร์สวัสดิ์ นายอำเภอขุขันธ์ , จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ ,นายอิศรา โพธิ์เงิน นายอำเภอน้ำเกลี้ยง , พ.อ.กิตติวรา อารีรักษ์ ผบ.ทพ.23 , พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ , พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ , พ.ต.อ.เดชนิวัฒน์ สมสุไทย ผกก.สภ.ปรือใหญ่
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ
“ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” ตำรวจ , ฝ่ายปกครอง , ทหาร , ราชทัณฑ์ ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ได้แก่
ผู้ต้องหาที่ 1 นายกิตติศักดิ์ หรือปอน ราษฎร ต.เหล่ากวาง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ
ผู้ต้องหาที่ 2 นางสาวพิมพร หรือพิม ราษฎร ต.แต้ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 9,924 เม็ด
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดร้ายแรง โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันมีลักษณะกระทำเพื่อการค้า อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
โดยแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาที่ 1 เพิ่มเติมว่า “เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในขณะที่ร่างกายมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”ตรวจยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบชั่วคราวตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 จำนวน 1 รายการมูลค่าประมาณ 900,000 บาท (เก้าแสนบาท)
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ พื้นที่รับผิดชอบ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ